ประวัติม่อฮ่อม
ม่อฮ่อม เป็นเครื่องแต่งกายของชาวภาคเหนือ ในตอนแรกไม่ได้หมายถึงเสื้อม่อฮ่อมแต่อย่างใด แต่หมายถึงเสื้อและกางเกงหรือเครื่องแต่งกายที่มีสีครามอมดำ ม่อฮ่อมมิใช่การแต่งกายของคนไทยแต่ดั้งเดิม แต่เป็นเครื่องแต่งกายของชาวลาวพวน ซึ่งชาวลาวพวนนี้ได้ถูกกวาดต้อนและอพยพมาจากแขวงเชียงขวานของประเทศลาว ชาวลาวพวนนี้ได้อพยพมาอยู่ที่ทางตอนเหนือของจังหวัดแพร่ และต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้างทุ่งโฮ้งใต้ซึ่งเป็นที่อยู่ในปัจจุบันนั้นเอง ชาวไทยพวนกลุ่มแรกเข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดแพร่ได้ประมาณ 40 ปี ก็ได้มีกลุ่มชาวไทยพวนกลุ่มที่สองเข้ามาเพิ่มเติมอีกกลุ่มหนึ่ง เข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่ใกล้กัน
เมื่อมีการตั้งหลักปักฐานกันแล้ว ก็ไม่มีการท่อผ้าเป็นเครื่องนุ่งห่มออกมาใช้ในชีวิตประจำวันกัน และหนึ่งในผ้าที่ได้รับความนิยมกันมากของชาวลาวพวนกันคือผ้าฝ้าที่ย้อมสีครามดำหรือเรียกว่าผ้าม่อฮ่อมนั่นเอง มีการตัดเย็บเป็นเสื้อม่อฮ่อมและกางเกงใช้กัน ต่อมาได้มีการตัดเย็บเสื้อม่อฮ่อมออกมาจำหน่ายเสื้อม่อฮ่อมราคาส่งให้กับคนงานและลูกจ้างที่ต้องเข้ามาทำงานป่าไม้ และด้วยความที่ใส่สบาย สีเข้มทำให้ดูไม่สกปรกจากการทำงาน จึงได้รับความนิยมจากจากคนไทยในจังหวัดแพร่กันอย่างแพร่หลาย ต่อมานายไกรศรี นิมมานเหมินห์ ได้ทำการจัดเลี้ยงต้อนรับท่านกงสุลอเมริกัน โดยมีการจัดงานเลี้ยงแบบขันโตกและได้มีการกำหนดให้มีการแต่งตัวด้วยเสื้อหม้อฮ่อมแขนสั้น คาดเอวด้วยผ้าขาวม้า จึงทำให้การแต่งกายด้วยเสื้อม่อฮ่อมกลายเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพร่
ถึงแม้ว่าเสื้อม่อฮ่อมจะไม่ใช่เสื้อที่เป็นของไทยแต่กำเนิด แต่เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่มาจากชาวลาวพวนที่อพยพมานำมาเผยแพร่และได้รับความนิยมจากคนไทย ทำให้ในปัจจุบันได้มีการนำเสื้อม่อฮ่อมกลายเป็นเอกลักษณ์การแต่งกายอีกแบบหนึ่งของคนไทยทั่วประเทศ ด้วยความที่เสื้อม่อฮ่อมนั้นทำมาจากผ้าฝ้ายจึงทำให้สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดีเหมาะกับภูมิอากาศของบ้านเราที่มีอากาศแบบร้อนชื้น และตอนนี้เสื้อม่อฮ่อมยังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตก อย่างชาวยุโรปและอเมริกาที่เข้ามายังประเทศไทย ด้วยความที่เสื้อม่อฮ่อมนั้นมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะไปที่ไหนถ้าเห็นเสื้อที่มีลักษณะเป็นเสื้อแขนสั้น คอลกลม มีกระดุมด้านหน้าและมีสีครามดำ ทุกคนจะเรียกเสื้อแบบนี้ว่าเสื้อม่อฮ่อม ยิ่งถ้าคาดด้วยผ้าขาวม้าที่เอวด้วยแล้วยิ่งแสดงออกถึงความเป็นไทยลูกทุ่งได้อย่างชัดเจน สื่อความหมายถึงธรรมชาติไม่มีการปรุงแต่งมากมายเหมือนเสื้อผ้าที่วางขายอยู่ตามยุคตามสมัยทั่วไป
